เนื่องจากความไม่สงบภายในประเทศเมียนมา ส่งผลให้มีการลักลอบเข้าเมืองและทำงานโดยผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น รวมถึงความขัดแย้งบริเวณชายแดนกัมพูชาทำให้แรงงานบางส่วนเดินทางกลับประเทศ ประเทศไทยจึงเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาตรการ 2 ประการ ดังนี้ ประการแรก คือ การจัดการแรงงานต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยอนุญาตให้แรงงานจากกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาตทำงานทันเวลา สามารถทำงานอย่างถูกกฎหมายได้เป็นระยะเวลา 1 ปี ประการที่สอง คือ การนำเข้าแรงงานต่างชาติสัญชาติอื่นผ่านกลไกบันทึกความเข้าใจ (MOU) โดยในระยะแรกจะนำร่องนำเข้าแรงงานสัญชาติศรีลังกา 10,000 คน และมีแผนนำเข้าแรงงานจากเนปาล บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ในอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
1. ความเป็นมาและปัญหา
- ความไม่สงบในเมียนมา: ส่งผลให้ชาวเมียนมาบางส่วนลักลอบเข้าเมืองและทำงานในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย
- ความไม่มั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา: ทำให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา (22,546 คน) เดินทางกลับประเทศต้นทาง
- การไม่สามารถต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้ทันเวลา: แรงงานต่างด้าวประมาณ 388,041 คน (ประกอบด้วยสัญชาติกัมพูชา 98,548 คน, ลาว 91,489 คน, เมียนมา 194,441 คน, และเวียดนาม 3,573 คน) ซึ่งใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 แต่บางส่วนไม่สามารถดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้ทันเวลาหรือครบถ้วน
2. แนวทางแก้ไข
คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้:
- การจัดการแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย: อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวบางสัญชาติสามารถพำนักและทำงานชั่วคราวได้
- การนำเข้าแรงงานต่างชาติจากประเทศอื่นผ่านกลไก MOU: เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนายจ้างในการบริหารจัดการแรงงาน
3. มาตรการหลักและรายละเอียดการดำเนินการ
3.1 การจัดการแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย
คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแนวทางการจัดการแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวบางส่วน และอนุญาตให้พวกเขาพำนักและทำงานในประเทศไทยชั่วคราว
- กลุ่มเป้าหมาย:
- แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม: ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่หมดอายุหรือมีตราประทับ แต่ใบอนุญาตทำงานหรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรหมดอายุและยังไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ (Overstay)
- แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมืองก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติและประสงค์จะทำงาน
- แนวทางและขั้นตอนการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย:
- การยื่นคำขอโดยนายจ้าง: นายจ้างต้องยื่นบัญชีรายชื่อและคำขออนุญาตทำงานแทนแรงงานต่างด้าว พร้อมชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ภายใน 15 วัน
- ข้อกำหนดด้านสุขภาพและประกัน: ยื่นเอกสาร เช่น ใบรับรองแพทย์ หลักฐานการประกันสุขภาพ หรือหลักฐานการขึ้นทะเบียนประกันสังคม (แล้วแต่กรณี) ต่อสำนักงานจัดหางานจังหวัด
- การเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล: แรงงานต่างด้าวต้องไปดำเนินการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ณ สถานที่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด
- ข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับแรงงานสัญชาติกัมพูชา: แรงงานสัญชาติกัมพูชาต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองครั้งแรกภายใน 60 วัน และรายงานตัวทุก 60 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความมั่นคงของชาติ
- ใบอนุญาตพำนักและวีซ่า: แรงงานสัญชาติลาว เมียนมา และเวียดนามที่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ สามารถยื่นขอใบอนุญาตพำนักชั่วคราวได้ตามระยะเวลาของใบอนุญาตทำงาน ณ สถานที่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด หากไม่มีเอกสารดังกล่าว ต้องดำเนินการจัดหาเอกสารและยื่นขอวีซ่า
- ระยะเวลาการทำงานและพำนัก:
- แรงงานต่างด้าวที่ดำเนินการสำเร็จจะได้รับใบอนุญาตทำงานและใบอนุญาตพำนักชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 ปี
- บุตรที่ติดตาม:
- บุตรของแรงงานต่างด้าวที่อายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ มีสิทธิพำนักในราชอาณาจักรตามสิทธิของบิดามารดา
- หากบุตรที่ติดตามมีอายุครบ 18 ปี และประสงค์จะทำงาน จะได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศเป็นกรณีพิเศษอีก 60 วัน เพื่อยื่นขออนุญาตทำงาน
3.2 แนวทางการนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติอื่น
เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้มีการนำเข้าแรงงานต่างชาติสัญชาติอื่นผ่านระบบ MOU
- จุดเน้นในระยะแรก:
- ระยะแรกจะนำเข้าแรงงานสัญชาติศรีลังกา จำนวน 10,000 คน เป็นโครงการนำร่องเพื่อทดแทนช่องว่างของแรงงานสัญชาติกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศ
- หากการนำเข้าแรงงานสัญชาติศรีลังกาเป็นไปอย่างราบรื่นและนายจ้างมีความต้องการเพิ่มเติม กระทรวงแรงงานจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเพื่อพิจารณาอนุมัติ และรายงานต่อคณะรัฐมนตรี
- เมื่อการเจรจาระหว่างสองประเทศได้ข้อยุติ กระทรวงแรงงานจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ และมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามในบันทึกความเข้าใจกับศรีลังกา
- แผนในอนาคต:
- สัญชาติที่อาจนำเข้าในอนาคต ได้แก่ เนปาล บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
- แรงงานที่นำเข้าผ่านระบบ MOU จะได้รับใบอนุญาตทำงาน 2 ปี และสามารถต่ออายุได้อีก 2 ปี ตามหลักเกณฑ์เดียวกับแรงงานต่างด้าวสัญชาติอื่นที่นำเข้าผ่านระบบ MOU
มาตรการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานด้วยนโยบายที่ยืดหยุ่นและครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการจัดการแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายให้ถูกต้องตามกฎหมาย และการเปิดช่องทางใหม่สำหรับการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ